บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เผยแพร่ความรู้เท่านั้น ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้ หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย ความดันต่ำ และ ความดันสูง หลายคนอาจจะมองว่าโรคเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัว แต่ถ้าหากคุณกำลังรู้สึกปวดหัวบ่อยคล้ายโรคไมเกรน ปวดตึงที่ต้นคอ บางครั้งก็หน้ามืด เลือดกำเดาก็ไหล ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ล่ะก็ คุณอาจจะเป็นโรคความดันต่ำหรือความดันสูงแล้วล่ะค่ะ ซึ่งเราสามารถเช็กค่าความดันได้ ด้วยเครื่องวัดความดัน แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าโรคเหล่านี้อันตรายอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบให้ค่ะ สารบัญ ความดันต่ำ – ความดันสูง มาทำความรู้จักกับโรคนี้กันเถอะ! ความดันต่ำ – ความดันสูง รักษาได้ไหม?
ปวดหัว ปวดต้นคอแบบนี้ เป็นความดันสูงรึป่าว?? | หมอยามาตอบ EP. 57 - YouTube
5 – 22. 9 กิโลกรัมต่อเมตรกำลังสอง หรือรักษาระดับเส้นรอบเอวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ในผู้ชายน้อยกว่า 90 เซนติเมตรหรือ 36 นิ้ว ส่วนผู้หญิงน้อยกว่า 80 เซนติเมตรหรือ 32 นิ้ว หรือวิธีการคำนวณอย่างง่ายไม่เกินส่วนสูง (เซนติเมตร) หารสอง) ตัวอย่างการคำนวณ เช่น ผู้ป่วยน้ำหนัก 65 กิโลกรัม ส่วนสูง 155 เซนติเมตร คำนวณดัชนีมวลกาย = 65 ÷ (1. 55 x 1. 55) = 27. 05 กิโลกรัมต่อตารางเมตร คำนวณเส้นรอบเอวที่เหมาะสม = 155 ÷ 2 = 77.
ผมได้สรุป Tips ดีๆ สำหรับที่คนเป็นความดันต้องรู้เอาไว้ให้แล้วใน My Action นะฮะ ทำตามได้เลย 1.
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล) 1 0 คนเห็นว่าคำถามนี้มีประโยชน์ คุณเห็นว่าคำถามนี้มีประโยชน์หรือไม่ September 08, 2018 17:26 ตอบโดย ศุภลักษณ์ แซ่จัง (พว. ) โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย แต่สามารถควบคุมได้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ ทานยาควบคุมความดันต่อเนื่อง หากมีเครื่องวัดความดันที่บ้าน แนะนำให้วัดทุกวันและจดบันทึกไว้ จนถึงวันนัดพบแพทย์ให้แพทย์ประเมิณค่าความดัน ว่าสามารถควบคุมได้หรือไม่ นอกจากนี้ควรควบคุมอาหาร งดอาหารที่เค็มจัด และ อาหารทอด อาหารไขมันสูง มีผลทำให้ความดันโลหิตสูงได้ นอกจากนี้การทานอาหารที่มีรสเค็มหรือปรุงด้วยเกลือจะไปลดประสิทธิภาพของยาลดความดันโลหิต อีกด้วยค่ะ ดังนั้นการช่วยให้ความดันโลหิตที่สูงขึ้น ลดลงคือ 1. นอนพักนั่งพัก หรือนอนหลับ 2. ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด ความวิตกกังวลในขณะนั้น 3. หากความดันโลหิตสูงเกิดจากอาการปวด ก็สามารถทานยาแก้ปวดบรรเทาค่ะ แต่สิ่งสำคัญคือ หากพบว่าอาการไม่ดีขึ้น ความดันยังสูงอยู่มาก ให้พบแพทย์ทันทีค่ะ เนื่องจากความดันโลหิตที่สูงมีโอกาสทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตค่ะ ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669 แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ สั่งยา ปรึกษาข้อมูลเบื้องต้น จากร้านยาใกล้บ้านคุณได้ง่ายๆ เริ่มจากแชทกับเภสัชกรที่มีใบอนุญาตผ่านแอปของเรา ฟรี!
สวัสดีค่ะ คุณ Piyalak Chueangsuwan, อาการอาเจียน ปวดมวนท้อง มีลมในท้อง ปวดหัว เวียนหัว อาจเกิดได้จาก 1. อาหารเป็นพิษ หรือลำไส้อักเสบติดเชื้อเฉียบพลัน นอกจากจะมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดมวนท้องแล้ว มักมีอาการถ่ายอุจจาระเหลวร่วมด้วย บางรายอาจมีไข้ ปวดหัว และเวียนหัวได้ 2. โรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือแผลในกระเพาะอาหาร จะมีอาการ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่หรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน รวมถึงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืดแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย 3.
Home > โรคความดันโลหิตสูง ภัยเงียบต่อหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงถือเป็นภัยเงียบที่น่ากลัวต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหัวใจของเรา ทำให้เกิดโรคร้ายตามมา ไม่ว่าจะเป็น ภาวะหัวใจวาย โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ความน่ากลัวของโรคความดันโลหิตสูงคือ เป็นโรคที่มักไม่มีอาการ และจะเป็นโรคเรื้อรังที่รุนแรงถ้าไม่สามารถควบคุมโรคได้ อาการความดันโลหิตสูงเป็นอย่างไร? ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการแต่อย่างใด อาจมีอาการปวดมึนท้ายทอย ตึงที่ต้นคอ เวียนศีรษะ บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะตุบๆ เหมือนไมเกรน ในผู้ป่วยที่เป็นมานาน อาจมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ใจสั่น นอนไม่หลับ และเมื่อมีอาการมากอาจโคมา และเสียชีวิตได้ หากปล่อยไว้นาน ไม่รักษา!
สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะเวลาเราออกกำลังกาย กล้ามเนื้อที่หนังศีรษะ หัว และคอต้องการการไหลเวียนของเลือด เส้นหลอดเลือดจึงมีการขยายตัว ซึ่งถ้าขยายตัวมากๆก็อาจทำให้เกิดอาการ ปวดหัว ตุ๊บๆขึ้นมาได้ นอกจากนั้น ก็มีสาเหตุมาจากร่างกายขาดน้ำ, ปริมาณน้ำตาลในเลือดต่ำ, ใช้กล้ามเนื้อหน้าอก คอ บ่า มากเกินกำลัง, ความดันเลือดสูง และการออกกำลังกายขณะท้องว่าง ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ จนทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ เคล็ดลับป้องกันการปวดหัวระหว่างออกกำลังกาย 1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ปกติคนเราควรดื่มน้ำ วันละ 8-10 แก้วอยู่แล้ว ดังนั้นควรดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง 2. กินอาหารรองท้องก่อน ออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง โดยเน้นจำพวกโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต อย่างพวกพีนัทบัตเตอร์ สแน็กบาร์ ธัญพืช เป็นต้น 3.
ความดันโลหิตคืออะไร? ความดันโลหิต เป็นแรงดันเลือดที่เกิดจากหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ซึ่งวัดได้ 2 ค่า ได้แก่ - ความดันโลหิตค่าบน คือ แรงดันโลหิตขณะที่หัวใจบีบตัวเต็มที่ - ความดันโลหิตค่าล่าง คือ แรงดันโลหิตขณะที่หัวใจคลายตัวเต็มที่ ความดันโลหิตสูงคืออะไร? ความดันโลหิตสูง (Hypertension) เป็นภาวะที่ตรวจพบว่ามีความดันโลหิตอยู่ในระดับสูงผิดปกติ คือมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งอาจไม่แสดงอาการแต่จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ไตวาย เป็นต้น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม อาจทำให้ผู้ป่วยทุพพลภาพหรือเสียชีวิตได้ ตารางแสดงค่าความดันโลหิต ประเภท ความดันโลหิตตัวบน (มม. ปรอท) ความดันโลหิตตัวล่าง (มม.
Exercise เดินเร็ว หรือ วิ่ง 30 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 5 วัน (อาจออกกำลังกายแอโรบิคอื่นแทนได้ เช่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค) √ หากเราออกกำลังกายตามนี้ สามารถช่วยลดความดันตัวบนได้ 4-9 mmHg เลยนะครับ 3. Weight Control ลดน้ำหนัก ดัชนีมวลกาย (BMI) ที่แนะนำ 18 – 25 kg/m2 ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนัก (kg) / ส่วนสูง (m) ยกกำลัง 2 √ ถ้าเราคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์นี้ สามารถช่วยลดความดันตัวบนได้ 5 – 20 mmHg ต่อน้ำหนักตัวที่ลดได้ 10 kg เลยครับ ใครที่น้ำหนักเกิน ลดน้ำหนักช่วยได้แน่นอนครับ 4. Sleep นอนวันละ 6-8 ชั่วโมง โดยควรนอนก่อน 5 ทุ่ม ปิดไฟให้มืดสนิท 5. Relax นั่งสมาธิ หรือ โยคะ (หลีกเลี่ยงท่าห้อยหัวลงนะฮะ) อย่างน้อย 5 นาที ต่อวัน เห็นทำง่ายๆแค่นี้ มีประโยชน์ ช่วยลดฮอร์โมนเครียด ลดความดันได้นะครับ เห็นมั้ยครับ แค่ปรับตัวเราเอง ยังไม่ทันกินยา ก็ลดความดันได้เยอะแล้ว เป็น 10-20 mmHg เลย ทีนี้ใครไม่ชอบกินยา ลองเอาไปทำดูนะครับ ได้ผลยังไงเอามาเล่าให้ฟังกันด้วยนะฮะ ถ้าเปลี่ยนตัวเองได้ ร่างกายเปลี่ยนแน่นอนครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ:) References: JNC7 Express: The Seventh Report of the Joint National Committee on Prevention, Detection, Evaluation, and Treatment of High Blood Pressure.