ชัยนาท 2543 พระองค์ทรงได้ทดลองใช้น้ำมันปาล์มกับเครื่องยนต์ดีเซลของกองงานส่วนพระองค์ และไม่ส่งผลกระทบในทางลบต่อเครื่องยนต์ดีเซล โครงการตามพระราชดำริพลังงานไบโอดีเซลและแก๊สโซฮอล์ แสดงให้เห็นพระปรีชาสามารถและสายพระเนตรอันยาวไกลของพระองค์ จึงทำประเทศไทยมีน้ำมันแก๊สโซฮอล์เป็นพลังงานทดแทนใชในปัจจุบัน 8. โครงการแก้มลิง โครงการแก้มลิง เป็นแนวคิดในพระราชดำริของพระบาทสมพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย ตามแนวทางการบริหารจัดการด้านน้ำท่วมล้น และเมื่อปี พ. ศ. 2493 ถือเป็นคำมั่นที่พระองค์มอบให้แก่ปวงชนชาวไทยที่ทำให้เกิดเป็นโครงการมากมายจากพ่อหลวง สู่ประชาชน ให้ประชาชนของพระองค์มีชีวิตที่ดีจนกระทั้งปัจจุบัน โครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ 3, 248 โครงการ/กิจกรรม ๒. โครงการพัฒนาด้านการเกษตร 170 โครงการ/กิจกรรม ๓. โครงการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม 182 โครงการ/กิจกรรม ๔. โครงการพัฒนาด้านส่งเสริมอาชีพ 339 โครงการ/กิจกรรม ๕. โครงการพัฒนาด้านสาธารณสุข 58 โครงการ/กิจกรรม ๖. โครงการพัฒนาด้านคมนาคม/สื่อสาร 87 โครงการ/กิจกรรม ๗. สวัสดิการสังคม/การศึกษา 398 โครงการ/กิจกรรม ๘. โครงการพัฒนาแบบบูรณาการ/อื่นๆ 259 โครงการ/กิจกรรม โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริล่าสุด 1 แหล่งที่มา: สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิด 24 โครงการที่น้อยคนจะรู้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐ ด้วยความรักและห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ท่าน สะท้อนผ่านการทรงงานเพื่อให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน 1.
โครงการพระราชดำริ (จำแนกตามพื้นที่ในภูมิภาค) - Results from #12 สุดยอด 9 โครงการ จากพ่อหลวง ร. 9 สู่ประชาชน – Dohome Guide. หน้าแรก โครงการพระราชดำริ (จำแนกตามพื้นที่ในภูมิภาค) โครงการศูนย์สาธิตพืชไร่และพืชสวนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต. ท่าแร้ง อ. บ้านแหลม จ. เพชรบุรี โครงการโรงงานสกัดน้ำมันพืชและผลิตไบโอดีเซลครบวงจร จ. เพชรบุรี โครงการพัฒนาพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนา ต. กุดแห่ อ. เลิงนกทา จ. ยโสธร โครงการสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ต. สามพระยา อ. ชะอำ จ. เพชรบุรี โครงการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน มูลนิธิชัยพัฒนา อ. เมือง จ. ปราจีนบุรี โครงการพัฒนาป่าชุมชน บ้านอ่างเอ็ด ต. ตกพรม อ. ขลุง จ. จันทบุรี โครงการโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ต. สระแก้ว อ. เมืองสระแก้ว จ. สระแก้ว โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาของมูลนิธิชัยพัฒนา (ภาคใต้) โครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านเหมือดแอ่ ต. หนองตูม อ. ขอนแก่น โครงการปลูกไผ่เชิงเศรษฐกิจโดยใช้วิธีเกษตรธรรมชาติ อ. สัตหีบ จ. ชลบุรี โครงการฟาร์มทดสอบสาธิตมีนเกษตรสองน้ำ ต. ท่าไข่ อ. ฉะเชิงเทรา โครงการพัฒนาการปรับปรุงบำรุงดินสำหรับการทำนาบ้านเด่นใหญ่ ต. เด่นใหญ่ อ. หันคา จ.
08:28 | 30 ตุลาคม 2560 899 รูปข่าว: นายกฯ ขอให้สานต่อศาสตร์พระราชา-4, 000 โครงการรัชกาลที่ 9 นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เชิญชวนประชาชนชมนิทรรศการพระเมรุมาศ ตั้งแต่วันที่ 2-30 พ. ย. 2560 พร้อมระบุจะสานต่อศาสตร์พระราชาและโครงการพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 วันนี้ (30 ต. ค. 2560) เมื่อเวลา 08. 00 น. พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. ) อ่านสารจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง โดยมีความยาวประมาณ 7 นาที นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ พลเรือนและประชาชนคนไทยทุกคนที่มีส่วนในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งทั่วโลกต่างชื่นชมการจัดงานที่สมพระเกียรติยศ โดยตลอดระยะเวลา 1 ปี มีผู้เข้ากราบแสดงความอาลัยมากถึง 10 ล้านคน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาให้จัดนิทรรศการพระเมรุมาศ ที่แสดงให้เห็นถึงองค์ความรู้เกี่ยวกับพระเมรุมาศและพระราชพิธีฯ รวมถึงพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 2-30 พ.
เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรให้ท้องถิ่นทุรกันดารด้วยเช่นกัน
แบบสองเครื่องยนต์ และต้องมีอุปกรณ์ช่วยในด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมขึ้นมา เพราะต้องบินในทะเล ขณะที่ตัวของนักบินเอง แม้จะมีใบอนุญาตเดียวกัน แต่การบินแบบออฟชอร์จะต้องได้รับการฝึกเพิ่มเติม เช่น การลงในพื้นที่จำกัด อย่างแท่นขุดเจาะน้ำมัน หรือกรณีเกิดอุบัติเหตุในทะเล จะเอาตัวรอดอย่างไร และช่วยผู้โดยสารอย่างไร การใช้อุปกรณ์ต่างๆใช้อย่างไร "การบินแบบออฟชอร์จะยากกว่าการบิน ฮ.
หน้าแรก โครงการพระราชดำริ (จำแนกตามพื้นที่ในภูมิภาค) โครงการศูนย์สาธิตพืชไร่และพืชสวนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต. ท่าแร้ง อ. บ้านแหลม จ. เพชรบุรี โครงการโรงงานสกัดน้ำมันพืชและผลิตไบโอดีเซลครบวงจร จ. เพชรบุรี โครงการพัฒนาพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนา ต. กุดแห่ อ. เลิงนกทา จ. ยโสธร โครงการสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ต. สามพระยา อ. ชะอำ จ. เพชรบุรี โครงการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน มูลนิธิชัยพัฒนา อ. เมือง จ. ปราจีนบุรี โครงการพัฒนาป่าชุมชน บ้านอ่างเอ็ด ต. ตกพรม อ. ขลุง จ. จันทบุรี โครงการโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ต. สระแก้ว อ. เมืองสระแก้ว จ. สระแก้ว โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาของมูลนิธิชัยพัฒนา (ภาคใต้) โครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านเหมือดแอ่ ต. หนองตูม อ. ขอนแก่น โครงการปลูกไผ่เชิงเศรษฐกิจโดยใช้วิธีเกษตรธรรมชาติ อ. สัตหีบ จ. ชลบุรี โครงการฟาร์มทดสอบสาธิตมีนเกษตรสองน้ำ ต. ท่าไข่ อ. ฉะเชิงเทรา โครงการพัฒนาการปรับปรุงบำรุงดินสำหรับการทำนาบ้านเด่นใหญ่ ต. เด่นใหญ่ อ. หันคา จ. ชัยนาท
ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดําริ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดําริ ตั้งอยู่ที่ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระราชดำริ ให้จัดตั้งศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดำริ ขึ้นในปี พ. ศ. 2523 เพื่อผลิตและส่งเสริมการปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์เมืองหนาวให้กับชาวบ้านในพื้นที่โดยรอบ ปัจจุบันศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดําริ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะแก่การไปเที่ยวชม มีฟาร์มแกะ และเรือนไม้ดอกสวย ๆ รวมทั้งพระตำหนักปางตองให้ได้ไปชื่นชมความงดงาม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 5361 1244 5.
ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เกิดจากการที่พื้นที่ป่าของจังหวัดระยอง-ชลบุรี ถูกทำลายจึงขาดความอุดมสมบูรณ์ของดินและขาดแหล่งน้ำ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดง ตามพระราชดำริ จ.
พล. ร. ต. สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ. บต. ) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต. ) ซึ่งมี พล. อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 โครงการด้วยกัน และหนึ่งในโครงการที่ กพต. เห็นชอบ คือการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ด้วยการพัฒนาอุโมงค์ที่อดีตโจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา (จคม. ) ได้ทำการขุดขึ้นในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อ. เบตง จ. ยะลา เพื่อเป็นฐานที่มั่นในขณะที่ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐในขณะนั้น ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดในจำนวน 3 อุโมงค์ ที่มีอยู่ในพื้นที่ อ. ยะลา โดยอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อุโมงค์ ที่เปิดเป็นแหล่งการท่องเที่ยวแล้ว ชื่อว่าอุโมงค์ "ต้าสวุ่ยตัว" มีพื้นที่ทั้งหมด 4, 000 ไร่ โดยกรมป่าไม้เจ้าของพื้นที่จะเป็นผู้รับผิดชอบในการนำพื้นที่มาทำการปรับปรุงพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ในเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นชาวจีน จากมณฑลยูนนานและอื่นๆ ร่วมทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศ และในภาคใต้เข้าไปชมอุโมงค์ยักษ์แห่งนี้ ส่วนในเรื่องของ เศรษฐกิจฐานราก กพต.