กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล
A: จะทำการผ่าตัดดามโลหะเฉพาะกรณีที่จำเป็นจริงๆหรือรักษาด้วยการเข้าเฝือกไม่ได้ เช่น กระดูกต้นขาหักในผู้สูงอายุที่ตัวใหญ่ๆจะไม่สามารถรักษาด้วยการใส่เฝือกได้ หรือในกรณีที่มีการแตกของชิ้นกระดูกเข้าไปในข้อ ถ้ารักษาโดยการใส่เฝือกอาจจะทำให้ข้อติดยึดได้ง่ายหรืออาจจะต้องผ่าตัดดามกระดูกหักเพื่อต้องการให้ข้อเคลื่อนไหวโดยเร็ว หรือในกรณีที่กระดูกหักแล้วมีการทะลุถึงผิวหนังและมีแผล ก็อาจจะต้องผ่าตัดรักษาหรือในกรณีที่มีการฉีกขาดของหลอดเลือดหรือเส้นประสาท ก็จะต้องจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อเย็บซ่อมเส้นเลือดและเส้นประสาทไปด้วย Q: ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบหลังจากจากผ่าตัดดามโลหะคืออะไรและควรทำอย่างไร? A: ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือกล้ามเนื้อลีบหรือติดยึด ะฉะนั้นการรักษาที่สำคัญในระหว่างที่กระดูกยังไม่ติด ก็จะต้องมีการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยจะต้องมีนักกายภาพบำบัดหรือแพทย์ทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูมา เกี่ยวข้องด้วยในการที่จะทำให้คนไข้ได้ออกกำลังกายในส่วนที่อาจจะลีบหรือมีข้อติดยึด เพื่อกล้ามเนื้อ แข็งแรงและติดเร็วขึ้น ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับกายภาพบำบัด >>>เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด
คุณสามารถป้องกันกระดูกเเตกได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถบริหารร่างกายเพื่อทำให้กระดูกเเข็งเเรงและไม่เกิดความเสียหายได้ง่าย เพื่อรักษากระดูกให้เเข็งเเรงอยู่เสมอคุณควรรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินดี นอกจากนี้คุณควรออกกำลังกายเป็นประจำด้วย การออกกำลังกายแบบแอโรบิกโดยมีการลงน้ำหนักที่ขา ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและช่วยยืดกระดูก การได้แก่การเดิน การปั่นจักรยาน การวิ่ง การเต้นและ เวทเทรนนิ่ง นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
การทำ Bone scan จะช่วยตรวจหาการแพร่กระจายของมะเร็งมาที่กระดูกได้เร็ว สามารถทำได้ง่าย และสามารถถ่ายภาพกระดูกได้ทีเดียวทั้งตัว เมื่อมีความผิดปกติมักจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน 2. การทำสแกนจะมีความไวมากกว่า การตรวจเอกซเรย์ลักษณะภาพสแกนของมะเร็งแพร่กระจายมักพบเป็นบริเวณที่มีการดูดซึมและนำเข้าเนื้อเยื่อ (uptake) มากผิดปกติหลายแห่ง มะเร็งเต้านมที่มีการแพร่กระจาย มาที่กระดูกสันหลัง (sternum) เพียง จุดเดียว น่าจะเกิดจากการกระจายผ่านท่อน้ำเหลือง (lymphatic spread) ทำในรายที่มี เนื้องอก มีการตอดเชื้อ ได้รับอุบัติเหตุ ใช้ประเมินการปลูกกระดูก และการใส่อวัยวะเทียม 3. เป็นการทำสแกนกระดูกในโรคที่มีการแพร่กระจายมายังกระดูก 4. เป็นการตรวจหาขอบเขตของโรคก่อนการรักษา 5. ทำสแกนเมื่อสงสัยว่าจะมีการแพร่กระจายมายังกระดูก (metastasis) เช่น เมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ 5. เพื่อติดตามผลการรักษาการแพร่กระจายในมะเร็งเต้านม ในระยะที่ทำผ่าตัดเต้านม (mastectomy) แล้วพบว่ามีการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง ซึ่งควรตรวจ ทุก 1 ปี 6. บอกตำแหน่งและขอบเขตของมะเร็งแพร่กระจายมนการตัดชิ้นเนื้อตรวจและการรักษาโดยการฉายแสง 7. เพื่อติดตามผลการักษา 1.
A: 2 แบบ 1. กระดูก ที่หักในเนื้อ กระดูก ที่ปกติ ( Fracture in general) 2. กระดูก ที่หักในเนื้อ กระดูก ที่อ่อนแอ ( Pathological fracture) แบ่งเป็น - หักเพราะ กระดูกบาง กระดูกพรุน (Osteoporotic fracture) พบใน ผู้สูงอายุ - หักเพราะ กระดูก เป็น เนื้องอก - หักเพราะ กระดูก ติดเชื้อ - หักเพราะเป็น โรค ของเนื้อ กระดูก แบบอื่นๆ Q: การรักษาเบื้องต้นเมื่อกระดูกหัก? A: เมื่อ กระดูก หักให้ทำ การดามด้วยวัสดุที่แข็งแรง เช่น ไม้ เพื่อให้บริเวณที่หัก อยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหว เพื่อลดอาการปวดและป้องกันไม่ให้ กระดูก ที่หักเคลื่อนที่ไปทิ่มแทงหรือทำอันตรายต่อ เนื้อเยื่อ อื่นๆ เช่น หลอดเลือด เส้นประสาท ที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้เคลื่อนย้ายผู้บาด เจ็บ ได้ง่ายและสะดวกขึ้น หลังจากนั้นให้นำผู้ป่วยส่ง โรงพยาบาล โดยด่วน Q: กระดูกหักเมื่อไรจะหาย? A: กระดูกหักจะใช้เวลาตั้งแต่กระดูกหักจนกระดูกติดสนิท ประมาณ 4 - 6 เดือน แต่กระดูกจะติดดีหรือไม่ดี ติดเร็วหรือติดช้าจะแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละคน Q: ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลให้กระดูกติดช้าหรือเร็ว? A: • ถ้าอายุน้อยกระดูกจะติดดีและเร็ว อายุเยอะกระดูกก็จะติดช้า • กระดูกที่หักเคลื่อนที่ไม่มากก็จะติดดีกว่ากระดูกที่หักแล้วเคลื่อนที่มาก • กระดูกหักหลายชิ้น ก็จะติดช้า • ถ้ามีการติดเชื้อของกระดูก ก็จะติดช้า • กระดูกที่แตกเข้าในข้อก็จะติดช้า • ถ้าไม่ทำกายภาพบำบัด ไม่ออกกำลังของกล้ามเนื้อ กระดูกก็จะติดช้า • การรับประทานอาหารที่มีแคลเซี่ยมสูงก็จะช่วยให้กระดูกติดเร็วขึ้น Q: เมื่อกระดูกหักกรณีใดที่ต้องผ่าตัดดามโลหะ?