ไปไหนมาไหน อุปกรณ์ต้องครบ อย่าแปลกใจไปที่คนดัดฟันจะพกของพะรุงพะรังติดตัวไปด้วย เพราะสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือแปรงสำหรับคนดัดฟัน ยาสีฟันสำหรับคนดัดฟัน น้ำยาบ้วนปาก ไม้จิ้มฟันแบบพลาสติก ไหมขัดฟันและกระจก หลายคนอาจจะแซวว่า แหม่ จะสะอาดไปไหน แต่เอาจริงๆ ถ้าไม่พกนี่อาจจะทำให้ไม่มั่นใจเวลาพูด หรือยิ้มเลยนะ ดูสิว่ากว่าจะสวยนี่ต้องทุ่มเทขนาดไหน 7. ก็ไม่ได้ตั้งใจจะแบ๊ว กว่าจะสามารถยิ้มให้ดูเป็นปกติ พูดให้ชัดขึ้น หรือแม้แต่แอ๊คหน้าถ่ายรูปให้ดูเป็นธรรมชาติ ต้องฝึกกันอยู่นาน เพราะการมีอุปกรณ์เข้าไปอยู่ในช่องปากก็สร้างความลำบากในการปรับตัวอยู่พอสมควร แต่พอเวลาผ่านไปเราเริ่มคุ้นเคยกับมัน มันก็จะกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใครต่อใครต่างอิจฉา เพราะความแบ๊วใส ที่อาจจะทำให้ใจใครหวั่นไหวได้ จนคนดัดฟันกลายเป็นสเป็คของใครหลายคนไปแล้ว ^++^ Tips: สำหรับคนดัดฟันรู้หรือเปล่าว่าพฤติกรรมที่เราชอบทำบางอย่างนั้น ส่งผลเสียกับฟันของเราได้นะ ฉะนั้นมาดูกันว่ามีพฤติกรรมไหนบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง 1. อาหารเหนียวและแข็งทั้งหลาย เพราะอาจทำให้เหล็กหลุดออกมาได้ ยิ่งถ้าอาหารติดตามซอกเหล็กและฟันที่ทำความสะอาดยากแล้วนั้นยิ่งไปกันใหญ่ แต่ถ้าเจอปัญหานี้เข้าแล้วจริงๆ พี่นิดขอแนะนำ Systema OD แปรงสีฟันสำหรับคนดัดฟันโดยเฉพาะ เพราะมีหัวแปรงเรียวเล็กสามารถเข้าซอกซอนทำความสะอาดได้ถึงซี่ในสุด ขนแปรงด้านในรูป V Shape ปลายกลมมนช่วยทำความสะอาดบริเวณเหล็กและที่ยึดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีขนแปรงบิดเกลียวเพิ่มพลังในการขจัดพลัคได้ด้วย และที่ถูกใจสุดๆ เลยคือขนแปรงนุ่มไม่ทำให้เจ็บเหงือกอีกด้วย พกติดตัวไปด้วยรับรองอุ่นใจหายห่วง 2.
NUGIRL Health Me สวัสดีจ้ะสาวๆ NU GIRL กลับมาเจอพี่นิดและคอลัมน์ Health Me อีกแล้วนะคะ ช่วงนี้พี่นิดสังเกตุว่าหันไปทางไหนก็จะเจอแต่คนดัดฟัน ส่วนใหญ่จะเป็นน้องๆ มัธยมไปจนถึงมหา'ลัยเลย น่ารักมาก ยิ้มทีนี่มุ้งมิ้งเชียว >x< (แหม่ คิดแล้วอยากย้อนเวลากลับไปซัก 10 ปี ^ o ^) แต่รู้มั้ยว่า ในอีกมุมของคนดัดฟันที่คนอื่นไม่รู้เนี้ย นอกจากปัญหาเรื่องฟันที่มีอยู่เดิมแล้ว ยังมีเรื่องที่ชวนปวดหัวปนความฮาอยู่เยอะเลยนะ แต่เพื่อความสวยในอนาคตใครๆ ก็ยอมจริงมั้ย งั้นตามไปดูกันว่าพวกเค้าต้องเผชิญกับอะไรบ้าง 1. หลับน้ำลายยืดแถมยังกัดฟันอีก ช่วงที่เราจัดฟันนั้น ฟันของเราจะเคลื่อนที่ไปอาจมีฟันบางซี่ที่สบกันไม่สม่ำเสมอ เป็นสาเหตุทำให้เกิดการนอนกัดฟันได้ พอมีอุปกรณ์อยู่ในปากเวลาเราหลับ อาจจะเผลอเปิดปากได้ทำให้นอนน้ำลายไหล จริงๆ แล้วก็ไม่แปลกแต่มันจะดูพิลึกไปสักหน่อย ถ้าเราไปหลับอ้าปากนอกสถานที่เนี้ยแหละ อาจจะโดนแซวได้ ยังไงถ้ามีเพื่อนดัดฟันแล้วเค้านอนกัดฟันหรือหลับน้ำลายยืดก็ทำความเข้าใจหน่อยเนาะ #แซวได้แต่อย่าแรง! >< 2. กลิ่นปากก็มาแบบไม่ได้ตั้งใจ สาเหตุของการเกิดกลิ่นปากเกิดจากการทำความสะอาดฟันไม่ทั่วถึงจากการดัดฟัน ทำให้เกิดคราบหินปูนและมีเศษอาหารที่คงค้างอยู่ทำให้ฟันผุได้ รวมไปถึงปัญหาจากระบบขับถ่ายที่ไม่ปกติ หรือที่เรียกว่า "ท้องผูก" ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีปัญหากลิ่นปากตามมา ซึ่งบางทีเจ้าตัวก็ไม่ทันได้รู้ตัว นอกจากจะมีเพื่อนสนิทจริงๆ ยอมพลีชีพบอกกันตรงๆ วิธีแก้คือ ทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธีด้วยแปรงสีฟันที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับคนดัดฟันโดยเฉพาะ แปรงลิ้น และใช้น้ำยาบ้วนปากด้วย แค่นี้ก็มั่นใจหายห่วงแล้ว 3.
รีวิวจัดฟันครบ 30 วัน | ติดเหล็กวันแรก/ความรู้สึกและอาการแต่ละวัน - YouTube
เสียวฟัน อาการเสียวฟันเกิดจากฟันสึกหรือเหงือกร่น ทำให้รากฟันบริเวณคอฟันสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น เช่น ความร้อน ความเย็น คนไข้จัดฟันสามารถมีการเสียวฟันได้มากกว่าปกติ เนื่องจากการทำความสะอาดเป็นไปได้ยาก นำไปสู่เหงือกอักเสบและเหงือกร่นได้ อีกสาเหตุของการเสียวฟันคือ ฟันผุลึก บางครั้งคนไข้อาจมองไม่เห็นรอยผุเนื่องจากอาจผุที่บริเวณซอกฟัน ดังนั้น หากมีอาการเสียวฟัน ควรแจ้งให้ทันตแพทย์จัดฟันทราบเพื่อตรวจหาสาเหตุ หากมีฟันผุจะได้รักษาด้วยการอุดฟัน ทั้งนี้ควรทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้ดีทุกวันเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ 5. คราบแบคทีเรีย คราบแบคทีเรียคือ แผ่นคราบเหนียว สีขาว-เหลือง ที่เกาะอยู่บนผิวฟัน ประกอบด้วย คราบอาหาร แบคทีเรีย และกรดที่แบคทีเรียสร้างขึ้นจากการย่อยน้ำตาล สามารถก่อให้เกิดปัญหาในช่องปาก ทั้งฟันผุ เหงือกอักเสบ หินปูน และ กลิ่นปาก โดยเฉพาะบริเวณขอบรอบๆ แบรกเก็ตหรือโลหะยึดฟัน วิธีป้องกันคือต้องแปรงและใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดให้ดี 6. หินปูน หินปูน คือคราบแบคทีเรียที่เกาะติดฟันอยู่เป็นเวลานาน ไม่ได้รับการแปรงหรือใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาด จนกระทั่งแข็งขึ้นกลายเป็นหินปูน และอาจมีการตกตะกอนของแร่ธาตุต่างๆ เข้าไป ทำให้มีสีเข้ม เมื่อคราบแบคทีเรียแข็งจนกลายเป็นหินปูนแล้ว คนไข้จะไม่สามารถแปรงหรือกำจัดหินปูนออกเองได้ ผู้ที่จัดฟันต้องแปรงฟันและใช้ไหมจัดฟันให้ดีทุกวัน และควรให้ทันตแพทย์ขูดหินปูนให้อย่างสม่ำเสมอ ทุก 6 เดือน เป็นต้น 7.
ห้ามกัดเล็บ ดินสอ ปากการวมไปถึงใช้ลิ้นดุนฟันด้วย พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้ แทนที่ระยะเวลาในการจัดจะเป็นไปอย่างที่คุณหมอได้วางแผนไว้ แต่หากฟันของเราหรือเหล็กเกิดหลุดขึ้นมาก่อน ระยะเวลากว่าที่ฟันจะเข้าที่ก็ต้องถูกยืดออกไปอีก ต้องเสียทั้งเวลา เสียทั้งเงินเลย ฉะนั้นเลิกทำซะน้า 3.
สาขา ทาวน์อินทาวน์ อยู่ตรงข้ามโลตัส Town in Town ใกล้โรงเรียนบดินทร์1 2. สาขา ม. เกษตร ตั้งอยู่ในซอยตลาดอมรพันธ์ ตรงข้าม ม. เกษตร
เผลอกลืนอุปกรณ์จัดฟันลงคอ ในบางครั้งผู้ที่จัดฟันอาจพบปัญหาอุปกรณ์จัดฟันหลุด เช่น แบรกเก็ต ยางจัดฟัน และคนไข้บางรายอาจเผลอกลืนลงไป แต่ไม่ต้องกังวล เนื่องจากอุปกรณ์จัดฟันทำจากวัสดุที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ร่างกายจะกำจัดออกมาทางการขับถ่ายตามปกติ คำแนะนำคือ พยายามปฏิบัติตามที่ทันตแพทย์บอก หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีลักษณะแข็ง เหนียว หรือชิ้นใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้อุปกรณ์จัดฟันหลุดได้ นอกจากมีโอกาสกลืนลงคอได้ ยังทำให้การรักษาไม่คืบหน้า ส่งผลให้การรักษาใช้เวลาที่นานขึ้น 3. เหล็กจัดฟันชอบหลุด หากเหล็กจัดฟันหลุด ในกรณีที่สามารถพบทันตแพทย์จัดฟันได้เร็วกว่ากำหนดนัด ก็แนะนำให้ไปพบได้ก่อนเพื่อให้คุณหมอตรวจและแก้ไขแต่เนิ่นๆ เพราะการที่เหล็กจัดฟันหลุดบ่อยจะมีผลให้การรักษาไม่คืบหน้าและต่อเนื่อง ส่วนการป้องกัน แนะนำให้หั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กพอคำก่อนรับประทาน แปรงฟันไม่แรงจนเกินไป ระวังปลายหัวแปรงกระแทกกับเหล็ก หรือการใช้ไม้จิ้มฟันไม่ระวัง 4.
อาการ หรือภาวะต่างๆ ของสุขภาพในช่องปาก ที่เกิดขึ้นได้จากการจัดฟัน มีอะไรบ้าง? จัดฟัน แล้วฟันโยก ฟันเหลือง เหงือกบวม เป็นเพราะอะไร? ต้องจัดการอย่างไร?
การสูญเสียแร่ธาตุของผิวเคลือบฟัน (Demineralization) เมื่อมีคราบอาหารหรือน้ำตาลติดค้างอยู่บนผิวฟัน แบคทีเรียก่อฟันผุจะย่อยน้ำตาล เกิดเป็นกรดกัดผิวเคลือบฟัน เกิดการสูญเสียแคลเซียมและฟอสเฟตออกจากผิวฟัน ในระยะแรกของการสูญเสียแร่ธาตุ ผิวฟันจะเห็นเป็นสีขาวขุ่น เมื่อเป็นมากขึ้นจึงเกิดเป็นรู นั่นคือกลไกการเกิดฟันผุนั่นเอง รอยสีขาวขุ่นนี้มักเกิดรอบๆ แบรกเก็ตโลหะที่ยึดกับฟัน (Bracket) เนื่องจากเป็นส่วนที่เศษอาหารมักติดค้าง และคนไข้มักแปรงฟันทำความสะอาดส่วนนี้ไม่เพียงพอ ดังนั้น คนไข้จัดฟันควรแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ ใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง และงดน้ำอัดลมซึ่งทำให้เกิดสภาวะกรดในช่องปาก 2. เหงือกอักเสบ ( เหงือกบวม) เหงือกอักเสบ คือ การที่ขอบเหงือกรอบๆ ฟันมีการอักเสบ บวม แดง กดเจ็บ และเลือดออกง่าย เกิดจากการสะสมของคราบแบคทีเรียและหินปูน หรือคนไข้ทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ เหงือกอักเสบนั้นเป็นโรคที่หายได้ แต่ไม่ควรละเลย เนื่องจากเหงือกอักเสบเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นโรคปริทันต์อักเสบในอนาคต คนไข้ควรแปรงฟันให้สะอาด ไม่ให้มีคราบแบคทีเรียหรือขี้ฟันหลงเหลือ ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน และขูดหินปูนทุก 6 เดือน 3. ฟันโยก ขณะจัดฟันอาจมีฟันโยกได้เล็กน้อยจากการเคลื่อนฟัน อย่าลืมแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบทุกครั้งเพื่อตรวจหาความผิดปกติ เพราะการโยกของฟันที่มากกว่าปกติอาจมีสาเหตุจากโรคเหงือกซึ่งมีการละลายของกระดูกรอบๆ ฟัน 4.
กลัวหมอฟัน ต้องบอกหมอฟัน อาการ กลัวหมอฟัน เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ขอให้คุณทำใจยอมรับว่าตัวเองกลัว และหาสาเหตุว่าความกลัวนั้นมาจากอะไร จากนั้นค่อย ๆ บอกให้หมอรับรู้ว่าคุณกลัว เช่น เล่าประสบการณ์ตอนเด็ก ๆ ที่เคยพบเจอ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณกลัวการทำฟัน จัดฟัน หรือบอกสิ่งที่คุณกังวลเกี่ยวกับการรักษา นั่นจะทำให้คุณหมอทราบถึงปัญหาของคุณ และหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้คุณนึกถึงความทรงจำอันเลวร้าย หรือสร้างความทรงจำในการรักษาแบบใหม่ที่ดีให้กับคุณ 2. กลัวหมอฟัน แก้ได้ด้วยการเปิดเพลง สำหรับใครที่กลัวหมอฟัน หรือกลัวเสียงเครื่องมือในการทำทันตกรรม ก่อนอื่นคุณต้องรับรู้ก่อนว่า การรักษาทันตกรรมในสมัยนี้พัฒนาขึ้นมาก ไม่มีอะไรอันตรายอย่างที่คุณคิด แต่หากใครที่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ ล่ะก็ บอกเลยว่าวิธีแก้ง่ายสุด ๆ เพียงแค่คุณเปิดเพลงคลอไปด้วยขณะที่คุณหมอทำการรักษา เสียงเพลงที่คุณชื่นชอบ จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและกลบเสียงเครื่องมือทันตกรรมที่คุณกลัวได้ สมัยนี้คลินิกหลายที่มีการเปิดเพลงคลอไปด้วยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นข้อนี้ ตัดออกจากความกลัวคุณไปได้ง่าย ๆ เลย 3. ไม่อยากสำลัก อย่าหายใจทางปาก กลัวหมอฟัน อาจมีสาเหตุหนึ่งมาจากการกลัวว่าตัวเองจะสำลักน้ำลายที่เกิดขึ้นขณะ ทำฟัน จัดฟัน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าในการทำทันตกรรมนั้น เป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่จะมีน้ำลายออกมา แต่ก็จะถูกดูดออกขณะทำการรักษาอยู่แล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือฝึกหายใจทางจมูกอย่างเดียว หากเผลอลืมตัวไปหายใจทางคอเมื่อไหร่ อาจจะทำให้เกิดการสำลักน้ำหรือน้ำไหลลงคอได้ หรือหากรู้สึกว่าหายใจไม่คล่องหรือน้ำจะลงคอก็สามารถยกมือซ้ายเพื่อขอให้คุณหมอชะลอหรือหยุดจังหวะการรักษาได้ 4.