รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน:)
คุณขึ้นรถไฟ 10:30 น. เราสังเกตการใช้ deshou [でしょう] ซึ่งบ่งบอกถึงการคาดเดาก สมมติฐานหรือการคาดเดา มันเป็นเรื่องง่ายที่จะคุ้นเคยกับความจริงที่ว่าคำกริยาไม่ได้กำหนดอนาคตหรือกาลปัจจุบัน เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะไม่พลาดหรือเห็นความแตกต่างในชีวิตประจำวันของคุณเมื่อพูดและเรียนภาษาญี่ปุ่น ฉันหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าเหตุใดจึงไม่มีคำกริยาภาษาญี่ปุ่นในอนาคตและจะปรับให้เข้ากับมันได้อย่างไร แบ่งปันบทความนี้:
ไม่มีที่ให้นาย ในอนาคต ที่นี่ กลับไปตอนที่ยังมีโอกาส Field of Dreams (1989) rain check [เรน เชค] (n,, idiom, (สำนวน)) เลื่อนไปก่อน ไว้ค่อยทำ ในอนาคต เช่น Can I have a rain check? ขอเลื่อนไปวันหลังได้ไหม คำนี้มีที่มาจากการแข่งขันกีฬาในสมัยก่อน ซึ่งหากฝนตกหรืออากาศไม่ดี ทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้ ผู้เข้าชมสามารถขอรับหางตั๋ว หรือ คูปองกระดาษ (เรียกว่า rain check) เพื่อในครั้งต่อไปที่มา จะได้สามารถแสดงหางตั๋วนี้ และเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย back order n. รายการสั่งซื้อล่วงหน้าที่ต้องส่งของ ในอนาคต before (บิฟอร์') adv., prep., conj. ก่อน, ก่อนหน้า, อยู่หน้า, หน้า, ตรงหน้า, กว่า, ในอนาคต, คอยอยู่, ภายใต้อิทธิพลของ, Syn. ahead future (ฟิว'เชอะ) n. อนาคต, ภายภาคหน้า, เวลาภายหน้า, อนาคตกาล, สิ่งที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต, การซื้อขายล่วงหน้า. adj. อนาคต, ภายหน้า, ต่อไป, ภายหลัง., See also: futuristic adj. futuristically adv. informatics สนเทศศาสตร์เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับสารสนเทศ (information) และการคำนวณเพื่อคาดการณ์ ในอนาคต เป็นคำที่ชาวยุโรปนำมาใช้แทนคำ computer science ที่แปลว่า วิทยาการคอมพิวเตอร์ดู computer science ประกอบ offing (ออฟ'ฟิง) n. ทะเลตอนเห็นจากฝั่งไกลลิบออกไป, ตำแหน่งที่อยู่ไกลจากฝั่งมาก.
3 วิธี แต่งประโยค 'บอกอนาคต' เป็นภาษาอังกฤษ 1. อนาคตแบบ "ธรรมดาทั่วไป" แบบนี้หมายถึงการพูดถึงอนาคต โดยสิ่งนั้นอาจจะเกิด หรือไม่เกิดในอนาคตก็ได้ ยังไม่ชัวร์ เป็นการคาดเดา TENSE: FUTURE SIMPLE (will + V. 1) • Leo will pay back my money tomorrow. (ลีโอจะคืนเงินฉันพรุ่งนี้ -- อาจจะคืนหรือไม่คืน ไม่รู้แน่ชัด) • Sarah will go to Japan. (ซาร่าห์จะไปญี่ปุ่น – ไปเมื่อไรไม่รู้ พูดเฉยๆ ว่าจะไป) 2. อนาคตแบบ "วางแผนไว้แล้ว" แบบนี้คือมั่นใจแล้วว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ๆ วางแผนไว้แล้วว่าสิ่งนั้นต้องเกิด TENSE: Present Continuous (v. to be +) (be going to + V. 1) • I 'm buying snacks for my cat when I get paid. (ฉันจะชื้อขนมให้แมว เมื่อฉันได้เงินเดือน -- วางแผนแล้ว แมวต้องได้กินขนม! ) • Sarah is going to resign next month. (ซาร่าห์จะลาออกเดือนหน้า -- วางแผนแน่แล้ว) 3. อนาคตแบบ "ตารางเวลา" แบบนี้มักจะใช้กับพวกตารางเวลาเที่ยวบิน รถไฟ การแสดง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่กำหนดมาชัดเจน และมักเกิดขึ้นตามนั้นเป็นประจำ เป็นปกติ TENSE: Present Simple (V. 1) • The train to Single City leaves at 8 o'clock on Saturday. (รถไฟไปเมืองคนโสดออกแปดโมงเช้าวันเสาร์) • The restaurant opens at 10 AM tomorrow.
(ร้านอาหารเปิดสิบโมงเช้าพรุ่งนี้) ต่อไปถ้าจะแต่งประโยคบอกอนาคต ก็ไม่ต้องใช้แต่ "will" แล้วค่ะ ลองเอาอีกสองแบบไปฝึกแต่งประโยคกันดูนะค้า เริ่มติว TOEIC กับครูดิว ไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้!
Share การลงทุนด้านการเรียนภาษาถือเป็นโอกาสและข้อได้เปรียบที่ลงทุนครั้งเดียวแต่ได้ผลมหาศาล คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาภาษาที่ 3 ให้ลูกได้เรียนเพื่อต่อยอดในอนาคต แต่ยังเลือกไม่ได้ LingoAce จะพามาดูกันว่าทำไมจึงควรเลือกเรียนภาษาจีนเป็นภาษาที่ 3 และคุ้มค่าแค่ไหนกับการให้ลูกเริ่มต้นเรียนภาษาจีนตั้งแต่ยังเด็ก 1. จีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ คงต้องยอมรับว่าประเทศจีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีอิทธิพลระดับโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ภาษาจีนเป็นภาษาที่มีความสำคัญมากขึ้นตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนหนึ่งเนื่องจากจีนเป็นประเทศขนาดใหญ่มีกำลังการผลิตสูง และมีธุรกิจต่างๆ ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งนักลงทุนชาวจีนที่ไปทำธุรกิจในประเทศต่างๆ ดังนั้นหากมีโอกาสในการเรียนภาษาจีนก็ควรเริ่มต้นศึกษาให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางการทำงานในอนาคตนั่นเอง 2. ภาษาจีนมีผู้ใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก จากผลสำรวจล่าสุดในปี 2019 พบว่าภาษาจีนเป็นภาษาที่มีผู้คนทั่วโลกใช้งานกว่า 1 พันล้านคน ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากภาษาอังกฤษ เนื่องจากประเทศจีนเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้คนนิยมใช้ภาษาจีนในการติดต่อเจรจาธุรกิจ และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการพูดภาษาจีนได้ จะช่วยต่อยอดให้กับเด็กๆ ได้ในอนาคต 3.